คุณสมบัติ
PRGR ในซีรีส์ RS เป็นรุ่นทัวร์ซึ่งถูกพัฒนาต่อเนื่องมายาวนาน และเป็นที่นิยมไม่แพ้ตระกูล EGG และ Super EGG แต่จะเน้นไปที่กลุ่มนักกอล์ฟมือกลาง จนถึงสายแข่ง ที่หาไม้ประสิทธิภาพสูงโดยเฉพาะ ซึ่ง PRGR RS จะยังมาพร้อมกับ 3 เทคโนโลยีหลักที่ถูกส่งต่อมารุ่นสู่รุ่น แต่พัฒนาให้ดีขึ้นอย่าง
W-Crown Design ส่วนกระดองที่ถูกออกแบบให้มีความบางมาก และในรุ่นใหม่นี้ยังมีการเพิ่มที่ภายในบริเวณส่วนบนของหน้าไม้กับกระดอง เพื่อให้สร้างแรงดีดลูกกอล์ให้พุ่งออกไปได้มากยิ่งขึ้น
W-Moment Design เป็นการกระจายน้ำหนักภายในหัวไม้ออกไปสี่ทิศทางให้ได้กว้างที่สุด เพื่อช่วยชดเชยความผิดพลาดจากทุกบริเวณของหน้าไม้ที่กระทบลูก บนหรือล่าง โคนหรือปลาย ทำให้ลูกกอล์ฟยังคงพุ่งออกไป ไม่ต่างจากโดนกลางหน้าไม้มากเท่าไหร่
จุดเด่นและเป็นสิทธิบัตรของ PRGR ในทุกรุ่นคือหน้าไม้แบบ Nabla Face เป็นการออกแบบหน้าไม้ให้มีความหนาบางแบบใหม่ โดยเฉพาะตรงส่วนกลางหน้าไม้ให้บางมากยิ่งขึ้น จึงเป็นการช่วยขยายขนาดของสวีทสปอต ทำให้ตีง่ายขึ้น และจากการทดสอบด้วยเครื่อง Trackman พบว่า ยังช่วยให้หน้าไม้ดีดมากยิ่งขึ้นอีกด้วย (หน้าเด้งในกฎ)
ก้าน Diamana ที่มีการออกแบบและผลิตร่วมกับ PRGR ตัวนี้ คือดีงามครับ มีการเอาเทคโนโลยี ในส่วนของเส้นใยของยางที่ทาง PRGR เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ มาผสมลงไปด้วย จึงได้ความหนึบและดีดนิด ๆ เป็นพิเศษ แม้จะเป็น flex s ก็ตาม ช่วยเพิ่มระยะได้เยอะครับ และเป็นก้านสีน้ำเงินที่สวยมาก เด่นสุด ๆ
ราคา 6,900 บาท PRGR RS ถึงแม้จะเป็นทัวร์ซีรีส์ ที่เน้นใช้แข่งขัน แต่กลับตีได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ และ RS รุ่นนี้ ยังมีตัวช่วยอย่าง anti-slice face ให้วิธีลุกดรอว์นิด ๆ อัดได้เต็มที่ และยังสามารถปรับ Loft +-1 degree พร้อมปรับวิถีลูกจากหมุดถ่วงที่อยู่ข้างใต้ เอาจริง ๆ มือใหม่ที่แรงถึง สวิงสปีดตั้งแต่ 95 ขึ้นไปก้ใช้ได้ครับ แม้ในสเป็คจะระบุว่าจะเหมาะนักกอล์ฟมือกลาง ไปจนถึงมือโปรก็ตาม พูดง่าย ๆ ถ้าใครสวิงสปีด 95 ขึ้นไป และอยากตีได้ระยะประมาณ 300 หลา ตัวนี้ทำได้แน่นอนครับ จุดเด่นอีกข้อของ PRGR แทบทุกรุ่นคือฟีลลิ่งที่นุ่มแต่หนักแน่น ไม่ได้รู้สึกกลวง ๆ เหมือนไม้หน้าเด้งอื่น ๆ ตีมันมากครับ ของใหม่สเป็คนี้ ในราคานี้ คุ้มค่าครับ เพราะแค่ก้านอย่างเดียวก็โหดแล้ว
