คุณสมบัติ
TAYLORMADE M1 มีการออกแบบโดยใช้วัสดุหลายชนิดประกอบกัน เรียงเป็นโครงสร้างหลายชั้น โดยใช้คาร์บอนคอมโพสิทที่เพิ่มมากขึ้นถึง 43% และใช้ 9-1-1 low density ไททาเนียม ผนึกเข้ากับคาร์บอนคอมโพสิทจำนวน 6 ชั้น ทำให้น้ำหนักเบาลง จากกระดองไม้ที่บางลง 10% แต่ยังมีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น พร้อมปรับตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำกว่าเดิมเล็กน้อย เพื่อการเข้าบอลที่ง่ายขึ้น สร้างวิถีลูกที่เหมาะสม ช่วยรักษาความเร็วลูกกอล์ฟให้สม่ำเสมอไม่ว่าจะตีเข้าบริเวณใดของหน้าไม้ และรุ่นปี 2017 นี้ยังเพิ่มในส่วนของ Geocoustic ที่ปรับปรุงเสียงให้เพราะขึ้นกว่ารุ่นก่อน
TAYLORMADE M1 มาพร้อมกับระบบ T-Track ที่ออกแบบใหม่ ทำให้สามารถปรับแต่งวิถีลูกได้มากขึ้น จากรางหลังที่ยาวขึ้น ทำให้สามารถปรับจุด CG จากหน้าไปหลังได้มากขึ้นถึง 64% นอกจากนี้ยังสามารถปรับ Loft +-2° ได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมก้านโม Fujikura Speeder Evolution 661 ที่โดดเด่นในเรื่องของมั่นคงสม่ำเสมอ จากเทคโนโลยี Triax Core เส้นใยกราไฟท์ถูกทอขึ้นสามทิศทางด้านใน และรุ่นนี้เป็น Mid Kick, Mid Spin และ Mid Launch ได้ไฟล์ทบอลพุ่ง ๆ ตกกลิ้ง
TAYLORMADE M1 DRIVER เหมาะสำหรับนักกอล์ฟกอล์ฟทุกระดับ ด้วยความสามารถในการปรับแต่งที่หลากหลาย จึงสามารถปรับให้เข้ากับสวิงของเรา และตัวนี้เป็นรุ่น 440cc ที่หัวจะคอมแพคขึ้น เข้าบอลได้แน่นขึ้น ค่า smash factor ดี พูดง่าย ๆ คือ ถ้าใครแรงถึง สปีดถึง (swing speed 95 ขึ้นไป) ตีระเบิดแน่นอน ไฟล์บอลจะพุ่ง ๆ หากดูจากคลิปรีวิวหลาย ๆ สำนักที่มีการเอาไดร์เวอร์ Taylormade หลาย ๆ รุ่นมาเทียบกัน (ไล่ตั้งแต่ M1 ถึง Stealth) จะเห็นว่ารุ่น M1 มีประสิทธิภาพแทบจะไม่ด้อยไปกว่ากันเลย ระยะใกล้เคียงกัน เพียงแต่ spin อาจจะสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ เนื่องจากค่า COG ที่ต่ำกว่า แต่ในขณะเดียวกัน M1 ก็เป็นรุ่นที่สามารถปรับแต่งวิถีลูกและน้ำหนักได้มากที่สุดนั่นเอง